รู้ไหมคะว่า ปัจจุบันมีอุปกรณ์ในการรักษาการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจชั่วคราวขณะหลับ (Sleep Apnea) ที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์ว่า มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาอยู่ 2 เครื่องด้วยกัน คือ เครื่อง CPAP และเครื่อง BiPAP ซึ่งทั้งสองเครื่องนี้ มีกระบวนการทำงาน เพื่อรักษาภาวะหยุดหายใจตอนนอนใกล้เคียงกันมาก ๆ แต่ก็มีส่วนที่ต่างกันอยู่บ้าง งั้นเรามาทำความรู้จักกับทั้งสองเครื่องกันเลยค่ะ
เนื้อหา
1 เครื่อง CPAP คือ อะไร
2 เครื่อง BiPAP คือ อะไร
3 เครื่อง CPAP กับ เครื่อง BiPAP ต่างกันตรงไหน
4 CPAP vs BiPAP เครื่องไหนดีกว่ากัน
5 เมื่อไหร่ต้องใช้เครื่อง BiPAP
6 Central sleep apnea คือ อะไร
7 วิธีการรักษา
8 สรุป เครื่อง CPAP กับ เครื่อง BiPAP อันไหนดีกว่ากัน
เครื่อง CPAP คือ อะไร?
CPAP มีชื่อย่อมาจาก Continuous Positive Airway Pressure เป็นเครื่องรักษาอาการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจตอนสากล ที่ช่วยให้เราหายใจได้โล่งขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้ทางเดินหายใจของเราตีบ โดยตัวเครื่องจะมีแรงดันอากาศส่งมา 1 ระดับในตอนที่เราหายใจเข้าออก
เครื่อง BiPAP คือ อะไร?
BiPAP ย่อมาจากคำว่า Bilevel Positive Airway Pressure ทำหน้าที่เหมือนกัน CPAP แต่ว่าจะมีการส่งความดัน 2 ระดับ โดยความดันตอนที่หายใจเข้ากับหายใจออก เป็นคนละค่ากัน ปัจจุบันเครื่อง BiPAP เป็นลิขสิทธิ์ของ Respironics
เครื่อง CPAP กับ เครื่อง BiPAP ต่างกันตรงไหน?
อย่างแรกเลยคือ เครื่อง BiPAP มีราคาที่สูงกว่า เครื่อง CPAP หลายคนที่ใช้เครื่อง CPAP ไม่ได้ผล ก็จะหันมาใช้เครื่อง BiPAP เพราะบางครั้งผู้ป่วยที่หยุดหายใจตอนนอนเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ COPD (Chronic Obstructive Pulmonary Disease) ร่วมด้วย ทำให้ต้องมีอุปกรณ์ช่วยหายใจอย่าง BiPAP ร่วมด้วย
CPAP vs BiPAP เครื่องไหนดีกว่ากัน?
ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยค่ะ ถ้าผู้ป่วยมีอาการหนักมาก ๆ และต้องได้รับการช่วยหายใจตอนนอนเป็นพิเศษ ก็อาจจะต้องบอกว่า เครื่อง BiPAP ดีกว่า เพราะว่ามันช่วยปรับระดับความดัน ที่สอดคล้องกับจังหวะการหายใจของเรานั่นเองค่ะ
เมื่อไหร่ต้องใช้เครื่อง BiPAP?
คนที่ใช้เครื่อง BiPAP ส่วนใหญ่แล้ว มีภาวะหยุดหายใจตอนนอนรุนแรงมาก ๆ และมักจะเป็นชนิดที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสมอง หรือที่เรียกว่า Central sleep apnea
Central sleep apnea คือ อะไร?
Central sleep apnea คือ ภาวะหยุดหายใจ ที่ไม่มีการพยายามหายใจเข้า ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท หรือเกิดจากการหยุดของสัญญาณประสาทจาก brain stem
วิธีการรักษา
ก่อนอื่นเราต้องหาหมอเพื่อทำ Sleep Test ดูว่าอาการนอนกรน และหยุดหายใจของเราเป็นแบบอุดกั้น หรือเป็นแบบความผิดปกติของระบบประสาท และถ้าตรวจพบว่าเป็น ก็จะได้รู้ว่า เป็นในระดับรุนแรงแค่ไหน จากนั้นก็จะแนะนำให้เราปรับพฤติกรรม และอาจจะให้ใช้เครื่อง CPAP หรือ เครื่อง BiPAP ตามระดับความรุนแรงของอาการที่เราเป็น
สรุป เครื่อง CPAP กับ เครื่อง BiPAP อันไหนดีกว่ากัน?
ถ้าเรามีภาวะหยุดหายใจแบบอุดกั้น และไม่ได้เป็นโรคปอด โรคหัวใจ เครื่อง CPAP อย่างเดียวก็ช่วยในการรักษาได้แล้ว แต่ถ้าเรามีอาการรุนแรง มีโรคปอดด้วย และมีความดันสูงมาก ๆ อยู่ด้วยแล้ว เครื่อง BiPAP ก็จะช่วยรักษาอาการที่เราเป็นได้ดีกว่า นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ต้องได้รับการดูแล และได้รับคำแนะนำให้ว่าควรจะใช้เครื่องไหนจากคุณหมอก่อนนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปริศนา สุนทรไชย กลุ่มกระบวนวิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่